การบริจาคเลือด (Blood Donation)

มีผู้คนบนโลกที่แสนจะสับสน อลหม่าน และวุ่นวายใบนี้อีกมากมาย ที่กำลังอยู่ในช่วงความเป็น ความตายของชีวิต ถ้าหากเรารู้ว่า เราสามารถที่จะช่วยผู้คนเหล่านั้นได้ เราจะช่วยมั้ย ?

ภาพประกอบเนื้อหาการบริจาคเลือด

"การบริจาคเลือด" เป็นอีกหนึ่งวิธีของการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยวิธีการการให้ที่ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ เงินทองหรือทรัพย์สินใดๆ อีกทั้งยัง ถือเป็น "ทาน" ที่เป็นการให้ที่มีอานุภาพมาก อนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึงและไม่อาจคาดเดาได้ ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งข้างหน้าอาจเป็นตัวเราเอง หรือคนรอบๆข้างเรา ที่อาจต้องเป็นผู้ขอรับการ "บริจาคเลือด" จากคนอื่นก็ได้นะคะ

ทำไมถึงต้องบริจาคเลือด ?

เลือด
เลือด

ด้วยความที่เลือดเป็นส่วนประกอบของร่างกายที่มีความมหัศจรรย์ เป็นของเหลวที่หล่อเลี้ยงให้ชีวิตเป็นสิ่งที่มีชีวิต อีกทั้งยังมีความสลับซับซ้อน แม้ในปัจจุบันจะมีนักวิทยาศาสตร์มากมาย พยายามผลิตคิดค้นและสังเคราะห์สารที่ทดแทนเลือด (Blood substitutes) ขึ้นมา แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นแค่การวิจัยที่ยังไม่สามารถนำมาทดแทนเลือดได้อย่างสมบูรณ์ จึงยังจำเป็นต้องใช้การบริจาคเลือดจากมนุษย์สู่มนุษย์ เราคงได้แต่หวังว่าการผลิตคิดค้นสารที่สามารถทดแทนเลือด จะสามารถนำมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้นี้นะคะ การบริจาคเลือดจึงยังมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากมีผู้ที่ต้องการเลือดแต่ไม่มีคนบริจาค หรือมีแต่ไม่เพียงพอ แน่นอนค่ะ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมานั่นคือความสูญเสีย ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จริงมั้ยคะ

อานิสงค์การบริจาคเลือด การให้จากชีวิตสู่ชีวิต

อานิสงส์คือ ผลที่ได้จากการบริจาคเลือดนั้น ผู้คนในสมัยโบราณมีความเชื่อกันว่า การให้ชีวิต ช่วยชีวิตโดยทำให้สัตว์ทั้งหลายสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ถือเป็นบุญกุศลที่สามารถจะสะเดาะเคราะห์กรรมหรือบรรเทาเรื่องที่ไม่ดีทั้งหลายลงได้ และในความเชื่อนั้น ยิ่งสัตว์ที่มีคุณหรือสัตว์ใหญ่ก็จะได้บุญลดหย่อนเป็นสัดส่วนกันไป เราจึงมักจะเห็นการสะเดาะเคราะห์ด้วยการปล่อยสัตว์ต่างๆเช่น ปล่อยนก ปล่อยปลา ไถ่ชีวิตโค-กระบือ กันอยู่เสมอๆ

ภาพประกอบเนื้อหา
ภาพประกอบเนื้อหา

แต่การบริจาคโลหิตนั้นเป็นการต่อชีวิตโดยการใช้เลือดในร่างกายของเราที่ตั้งใจสละ เพื่อต่ออายุขัยชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จึงนับได้ว่าเป็นทานที่ต้องใช้ความตั้งมั่น และตั้งใจในระดับหนึ่ง "เป็นการให้จากชีวิตสู่ชีวิต" บุญที่ได้จากการต่ออายุขัยให้กับผู้คนที่กำลังอยู่ในช่วง บาดเจ็บ คับขัน หรืออยู่ในสภาวะความเป็นความตายของชีวิตนั้น เชือกันว่ามากจนสามารถช่วย ตัดรอน วิบากเคราะห์ วิบากกรรม ได้เช่นกันค่ะ จากเบาก็จะหาย จากร้ายก็จะกลายเป็นดี และนอกเหนือจากความเชื่อในเรื่องการช่วยบรรเทา เบาบาง เคราะห์กรรม ทั้งหลายแล้ว


การบริจาคเลือดเองนั้น ยังมีผลพลอยได้ที่จะทำให้

1). ผู้บริจาค มีรูปร่างดี มีออร่า หน้าใส ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เนื่องจากไขกระดูกจะถูกกระตุ้นการทำงาน เพื่อให้มีการสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน จึงส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น


2). มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ โรคมะเร็งชนิดต่างๆ เช่น มะเร็งตับ, มะเร็งปอด, มะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งกระเพาะอาหาร ช่วยลดปริมาณธาตุเหล็กส่วนเกินในร่างกาย อันเป็นปัจจัยของการเกิดโรค "เส้นเลือดหัวใจอุดตัน" รวมถึง "กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน"


3). มีจิตใจที่ผ่องใส เป็นที่รักของคนทั่วไป ดังคำที่พระท่านว่า "ทะทะมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก" ผู้ให้กับผู้รับนั้นย่อมมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน ผู้ให้ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์และผู้ให้ย่อมมีความสุขที่ได้ให้


4). ผู้บริจาคยังได้ตรวจสุขภาพ ของตนเองไปในตัว ด้วยนะคะ


ภาพประกอบเนื้อหาการบริจาคเลือด

เพื่อนๆเห็นและรู้สึกเหมือน กิ๊ฟกั๊ฟฟ์ มั้ยค่ะ ว่าการบริจาคเลือดมีข้อดีมากมายเลย คนที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ ช่วงความเป็นความตายชองชีวิตหรือกำลังเจ็บไข้ได้ป่วย ก็อาจได้รับการช่วยเหลือด้วยเลือดของเรา ญาติ พี่น้องคนรอบข้างของผู้คนเหล่านั้นก็คงดีใจ ผลพลอยได้ที่สำคัญนอกจากได้บุญ ได้สะเดาะห์เคราะห์ ได้สุขภาพ และอื่นๆอีกมากมายแล้ว เหนือยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดนั้น กิ๊ฟกั๊ฟฟ์ เชื่อว่าคนที่บริจาคเลือดเมื่อระลึกนึกถึงขึ้นมาคราวใด ก็จะรู้สึกสุขใจอยู่ลึกๆแน่ๆเลย ถ้าเพื่อนๆอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าอยากที่จะบริจาคเลือด แต่ยังไม่เคยบริจาค อยากรู้ว่าต้องทำยังไง ตาม กิ๊ฟกั๊ฟฟ์ มาดูการเตรียมตัวก่อนบริจาคเลือดด้วยกันต่อนะคะ

การเตรียมตัวสำหรับบริจาคเลือด

การบริจาคเลือด ถ้าเป็นครั้งแรกคงมีหลายคนแน่ๆเลยที่กลัว เพราะ กิ๊ฟกั๊ฟฟ์ เองครั้งแรกก็เป็นเหมือนกันค่ะ กลัวเจ็บ กลัวเลือด คิดไปก่อนถึงดาวอังคารเลย อาจเป็นเพราะภาพของเลือดและความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับเลือด ไม่ว่าจะเป็นในหนัง ละคร หรือ ชีวิตประจำวัน มันมักจะมาพร้อมกับความเจ็บปวด เรื่องของเลือดโดยส่วนใหญ่จะต้องเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับความสูญเสียอยู่เสมอๆ เลยทำให้คิดไปต่างๆนาๆ ยิ่งพอนึกถึง การบริจาคเลือดที่ต้องมีเข็มแหลมๆทิ่มเข้าไป แล้วดูดเลือดของเราออกมา ก็จะรู้สึกว่าดูน่ากลัว แต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่คิดสักนิดค่ะ ยุงกัดเจ็บกว่าเยอะเลย

บริจาคเลือด
บริจาคเลือด

เมื่อเราเตรียมใจของเราแล้ว ทีนี้เราก็มาดูสิ่งที่เราต้องรู้ เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะไปบริจาคเลือดกันค่ะ

 1). ต้องมีน้ำหนักเกิน 45 กิโลกรัม และควรนอนหลับพักผ่อนมากกว่า 6 ชม. ก่อนมาบริจาคเลือด


 2). ต้องมีอายุระหว่าง 17 ปี ถึง 60 ปีบริบูรณ์ (ถ้าเป็นผู้บริจาคครั้งแรกต้องอายุไม่เกิน 55 ปี)


 3). หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง น้ำตาลสูงทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนทำการบริจาคเลือด (แต่สามารถทานอาหารก่อนมาบริจาคเลือดได้ตามปกติ ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อป้องการอาการวิงเวียนศีรษะ)


 4). มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นไข้หวัด ไม่มีอาการท้องเสีย หรือท้องร่วงในระยะ 7 วันที่ผ่านมา ไม่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ตับ ไต ไทรอยด์ หรือโรคที่เกี่ยวกับเลือด รวมถึงโรคหอบหืด, โรคผิวหนังเรื้อรัง, วัณโรค หรือภูมิแพ้อื่นๆ


 5). ไม่อยู่ในระหว่างทานยา หรือรักษาโรค และต้องหยุดกินยาทุกอย่างมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 วัน


 6). สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา


 7). ถ้ามีการทำฟัน ควรทิ้งระยะก่อนมาบริจาคเลือดไม่น้อยกว่า 3 วัน


 8). หากเคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ต้องเกิน 6 เดือน ผ่าตัดเล็ก ต้องเกิน 1 เดือน


 9). หากเคยรับเลือดของคนอื่นเพื่อการรักษา ต้องเกิน 1 ปี


10). หากเจาะหู สัก ลบรอยสัก หรือฝังเข็ม ต้องเกิน 1 ปี


11). หากเคยเป็นไข้มาลาเรีย ต้องเว้น 3 ปี แต่ถ้าหากเคยเข้าไปในพื้นที่ๆ เสี่ยงต่อการติดต่อของโรคมาลาเรีย ต้องเว้น 1 ปี


12). ไม่ได้รับวัคซีนใดๆ ภายใน 14 วัน หรือเซรุ่มใดๆ ภายใน 1 ปี


13). ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ไม่มีประวัติยาเสพติด ถ้าเคยต้องโทษ ต้องพ้นโทษเกิน 3 ปี


หัวข้อต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องรู้เพื่อตรวจสอบตัวของเราเองก่อนที่จะไปบริจาคเลือดนะคะ ว่าเราสามารถที่จะบริจาคเลือดได้มั้ย และเมื่อไปถึงที่บริจาคเลือด ก็จะมีเจ้าหน้าที่คัดกรองสอบถามเราอีกที การเตรียมตัวสำหรับการบริจาคเลือด ที่เราควรที่จะต้องรู้ก็มีเพียงเท่านี้เองค่ะ

ภาพประกอบเนื้อหา

และสำหรับบางคนระหว่างที่บริจาคเลือด คือเห็นเลือดแล้วรู้สึกกลัวๆ จะลองใช้วิธีหลับตาทำสมาธิแล้วก็อธิษฐานและแผ่เมตตาไปด้วย ก็สามารถช่วยได้ไม่น้อยเลยนะคะ สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะอธิษฐานว่าอะไรดี กิ๊ฟกั๊ฟฟ์ เก็บเอาคำอธิษฐานดีๆ หนึ่งในคำอธิษฐานจากพระอาจารย์ที่ กิ๊ฟกั๊ฟฟ์ เคารพนับถือ มาฝากค่ะ


"ใครก็ตามที่ได้รับเลือดของเราที่เราตั้งใจบริจาคแล้วนี้ ถ้าเจ็บ ถ้าป่วยอยู่ก็ขอให้หาย จากร้ายขอให้กลายเป็นดี ถ้าทุกข์อยู่ขอให้พ้นทุกข์ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีอายุขัยยืนนาน ขอให้ผลบุญจากการตั้งใจบริจาคเลือดของเรานี้ จงถึงแก่คู่กรรม คู่เวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ถ้ามีกรรมอันใดที่เคยได้กระทำล่วงเกินต่อกันไว้ ก็ขอให้มลายหายสูญไป ขอให้เป็นอโหสิกรรมต่อกัน"


สุดท้ายกับเรื่องราวของการบริจาคเลือดนี้ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หากมีอะไรที่ตกหล่นหรือไม่สมบูรณ์ แนะนำ กิ๊ฟกั๊ฟฟ์ ได้ ที่นี่ ค่ะ

ขอขอบคุณ

ภาพประกอบจาก pixabay, pxhere

GibGub Shop / ร้าน กิ๊ฟกั๊ฟฟ์